Skip to main content

สงกรานต์บ้านเขาทอง/SongKran Fesival Khaothong Village Phayuhakiri Nakornsawan



สงกรานต์แต่ละปี ในแต่ละที่ของบ้านเรามีกิจกรรมมากมาย ในปีนี้ที่หมู่บ้านเขาทอง เป็นหมู่บ้านเล็กแห่งหนึ่ง อ.พยุหะคีรี จ.นครสวรรค์ จัดให้มีกิจกรรม การละเล่น เพื่อให้คนในชุมชนได้มา พบปะสังสรรค์กัน ทั้งในแต่ละครอบครัว และกิจกรรมสนุกๆที่ทางตำบลจัดขึ้น เพื่อให้คนในหมู่บ้านได้ร่วมกิกรรมอย่างสนุกสนาน นั่นคือการละเล่นของเด็กๆที่  เป็นลูกหลาน ได้มาแข่งกีฬาพื้นบ้านแบบไทย




บรรยากาศแบบไทยๆที่ยังหาได้ในชนบท




เช้าวันสงกรานต์ไม่ได้ไปทำบุญที่ วัดเหมือนใครต่อใครเขาหรอกเพราะ ว่าที่บ้านลูกค้าที่สนิทสนมกับที่บ้านฉันมีงานศพ เป็นคนแก่ที่ป่วยเป็นอัมพาธนอนมาหลายปีแล้ว มีลูกหลานคอยดูแลปรนนิบัติพัดวีอย่างใกล้ชิด


ฉันเลยไปช่วยงานตักบาตรที่บ้านลูกค้าตั้งแต่เช้าตรู่วันสงกรานต์      ปีนี้ดูเหมือนอากาศยิ่งร้อนคนเฒ่าคนแก่ มียอดการตายพุ่งมากขึ้น เป็นเหมือนทุกๆปี  พอย่างเข้าหน้าร้อนอย่างนี้ จะมีคนสูงอายุจากไป
ราวกับผลไม้ที่สุกงอมล่วงหล่นลงจากต้น เหมือนกับทุกอย่างในโลก ต้องมีเกิดขึ้นตั้งอยู่และดับไป
 ในหมู่บ้านที่ฉันอยู่มีงานกันมากมายทั้งบวชนาค แต่งงาน และงานศพ กลับจากทำบุญแล้วอยู่บ้านอากาศร้อนอย่างนี้ไม่ได้ไปไหน



นานๆที่บ้านจะมีผู้คนในหมู่บ้านที่ไปทำงานต่างถิ่นจะกลับบ้านกันพร้อมหน้าพร้อมตา ที่บ้านฉันก้เช่นกัน ปกติแล้วที่บ้านเป็นคนไทยเชื้อสายจีน ไม่ค่อยตื่นเต้นกับการกลับบ้านในเทศกาลนี้เท่าไหร่นัก  แต่ว่าผู้คนที่อยู่แวดล้อมต่างหากที่ทำให้รุ้สึกว่ามีบรรยากาศการกลับบ้านดูคึกคักในเทศกาลสงกรานต์ของทุกปี
เมื่อพวกเราในครอบครัว  กลับบ้านมาพร้อมหน้าพร้อมตา   ต่างคนต่างมีหน้าที่ต้องปฎิบัติกันอยู่แล้ว  บางครั้งพวกเราต่างก้นั่งคุยกันบ้าง  อย่างน้อยความรู้สึกอบอุนมากกว่าที่เคยก้เท่านั้น การได้ดูข่าวร่วมกันบ้าง อ่านหนังสือกันบ้าง นั่งอยู่คนละฝั่งของบ้านมุมใครมุมมันหาความสำราญได้ แต่ว่ามีความสุขในแบบส่วนตัวของแต่ละคนไป




การแข่งขันกีฬาพื้นบ้านมีเด้กๆให้ความร่วมมือกันอย่างสนุกสนาน


สาวน้อยคนนี้วิ่งได้รวดเร็วปานจร
แชมป์ฝ่ายหญิงคือคนนี้


พี่เลี้ยงมารับออกจากขอบสนาม


หนุ่มน้อยคนนี้เล่นแย้ลงรูมีพละกำลังน่างกายแข็งแรงมาก


ประมาณบ่ายสองโมง อาปาชวนฉันกับน้องชายไปเที่ยวเล่นในวัด พอรู้ข่าวว่ามีเล่นกีฬาพื้นบ้านสามัคคีด้วย รีบจัดแจงเตรียมตัวไปดูและเชียร์กีฬากันที่บริเวณลานกีฬาของวัดเขาทอง ศูนย์รวมกิจกรรมกลางแจ้ง ของหมู่บ้านของเรา



นี่..เป็นรุ่นเล็กสุดอายุไม่เกิน 5 ขวบ


แข่งกันเหยียบลูกโป่ง



เหลือสามคนสุดท้าย

ด้วยไหวพริบและความชาญฉลาดของเด็ก


เล่นเอาผู้ใหญ่หัวเราะชอบใจ





เสื้อสีเขียวฉลาดมากได้ใจใครๆไปหลายคน

เต้นฟุตเวิร์คตลอด ดูท่าทางแกซะก่อนไม่มีใครกล้าแหยมเลย



การละเล่นสารพัดรวมทั้งกีฬ่าพื้นบ้านไฮไลท์ของงานสงกรานต์ ของหมูบ้าน เริ่มมองเห็นกอเชียร์แต่ละหมู่บ้านแล้วแม้ว่าแดดร้อนมากเพียงใด ขนาดผิวแดดเป็นไอระยับเป็นเปลวอยู่ตรงหน้า ไม่ได้เป็น
อุปสรรคต่อการมาร่วมงานนี้กันเลยแม้แต่น้อย

ทุกคนมีใบหน้าเปื้อนยิ้มส่งเสียงทักทายยกมือไห้วอาปาฉัน ฉันกับน้องชายที่เดินตามอมยิ้มยกมือไหว้กลับไปแทนคำขอบคุณ



               อ้าวนั่นคู่นั้นเริ่มดึงเสื้อกันแล้ว
กรรมการต้องมาแยก


เราเดินตามอาปาทักทายผู้คนไปตลอดทาง จนกระระทั่งถึงเต้นท์ของหมู่บ้าน บ้านฉันอยู่หมู่ 5 เราสามคนพ่อลูกไปนั่นดุกีฬากันที่ นั่น แค่เห็นบรรยากาศรอบๆตัว ไม่ต้องอธบานเลยว่ามีความอบอุ่น และน้ำใจของชาวบ้านที่นี่มากมายเพียงไร



 
 
สีสันของกองเชียร์แต่ละหมู่
 
 
เสื้อแดงใส่หมวกสาน นั่นคือ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 4
 

ทุกคนที่มาร่วมงานมีความสามัคคี
และมุ่งเน้นความเฮฮาสนุกสนาน



พวกเราเตรียมร่ม หมวก เสื้อแขนยาวติดตัวไปเท่าที่จำเป็น ยังไม่ทันจอดรถกันเลย มองเห็นคนในหมู่บ้านเข้ามาร่วมกิจกรรม การแข่งกีฬาพื้นบ้านกันมากมาย หลายคนที่ต้องเดินมฃทางไปทำงานต่างถิ่น จะกลับมาเที่ยวบ้าน นับว่าเป็นการรวมตัวพบหน้ากันระหว่างพี่น้อง




คนนี้เร็วมากจับคนดูเชียร์ก้นลั่นเสียงดังสนั่นสนาม
แพลนกล้องตามแทบไม่ทัน




                            ต้องมีทักษะและความสามารถพอตัว
ไม่งั้นเดี๋ยวตกลงมาได้ง่ายๆ



ได้ยินเสียงกองเชียร์กีฬาดังกระหึ่มออกมานอกบริเวณวัดแล้ว พิธีกรเพิ่งเริ่มส่งเสียงเรียกคนให้มานวมตัวกันตามซุ้มต่างๆที่แต่ละหมู่บ้านจัดไว้ให้กองเชียร์ได้ส่งเสียงกันอย่างสนุกสนาน
















Comments

  1. ดีมากเลยน้องไผ่ที่ทำแบบนี้คนรุ่นใหม่จะได้เห็นประเพณีบ้านเราถ้าจะให้ดังทำบริเวณสระแก้วให้เป็นตลาดน้ำบ้านเขาทองมีเฉพาะ วันเสาร์-อาทิตย์ ยกเลิกตลาดนัดที่มีมาเก่าแก่มาเข้าตลาดน้ำให้หมดต้องขอกำลัง อบต.และอบจ.
    เอาสินค้าที่เป็นเอกลักษณ์ของบ้านเขาทองมาพัฒนาและขึ้นป้ายทางแยกเข้าเขาทอง " ว่าตลาดน้ำบ้านเขาทอง "
    อาหารเน้นโบราณ
    1.ก๊วยเตี๋ยวหมูโบราณเจ้กวา
    2.ปลาหร้าผัด
    3.ขนมข้าวโปง
    4.คณะครูโรงเรียนทั้ง 2 โรงเรียน
    5.ข้าวเกรียบว้าว ฯลฯ

    ReplyDelete

Post a Comment

Popular posts from this blog

::.จากใจสู่ใจของคนไทยหนึ่งคน / In The Name Of Thai People ::

การเมืองไทยในวันนี้   เรารู้ดีว่าเกิดอะไร เราไม่เคยโกหกตัวเราได้ ตอนนี้คนไทยหันมาฆ่ากันเอง เรายอมรับความจริง การเมืองไม่นิ่งอย่าอ่อนไหว ปัญหามาก็แก้กันไป มองดูภัยที่อยู่ข้างตัว ตอนนี้เหล่าพี่น้องคนไทย จะไปทางไหนต้องระวังตัว เพราะมีตำรวจที่แสนมั่ว ไม่รู้ว่าจะทำตัวอย่างไร เราต้องดูแลตัวเอง ไม่คิดข่มเหงต่อใคร แต่คนที่เห็นหน้ากันไหวๆ ก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน มองไปรอบๆตัวเอง ไม่ได้กลัวเกรงหรือหวั่นไหว แต่ยามนี้บ้านเมืองไม่ปลอดภัย เดี่ยวโดนพวกเสื้อสีควาย ๆ ไว้ใจพวกนั้นได้เมื่อไหร่เล่า อยู่ดีๆมันวิ่งเข้าใส่ไล่ล่า ปาระเบิดตะเพิดเอา ด้วยเจ็บเปล่าง่าย ๆ อาจตายฟรี By Korpai 4/25/10

:: มีอะไรที่ไม่เปลี่ยน/Changing ::

โลกบอกอะไรแก่เราบ้าง หรืออาจลืมอะไรบางอย่างที่วางไว้ บอกเรื่องก้าวหน้าเดินต่อไป เตือนสิ่งดีไว้หันมองคราใดใจยังจำ ลืมคนบางคนบนเวลาที่ว่าเหงา หรือลืมเงาคนเก่าที่เคยหวัง กลับมองสิ่งที่ผ่านเป็นพลัง เติมความหวังไม่ย้อนไปให้ซ้ำเดิม หันมองเวลากลับผ่านเมื่อวันก่อน มีทุกข์ร้อนซ่อนความหวานซ่านปนขม มีเรื่องราวหลายหลากซากระบม มีทั้งเรื่องทั้งโง่บรมขมเหลือใจ อาจหันมองคืนวันเก่าแล้วขบขัน หลายสิ่งที่คิดไปในวันนั้น ตัดสินใจทำไปได้อย่างไรกัน ไม่อาจหันเปลี่ยนใจแล้วไม่มอง วัน เวลา เข็มนาฬิกา แม้ว่าไม่ได้นั่งเฝ้ามองดู ทุกอย่างยังเดินหน้าอยู่ ย่อมเปลี่ยนแปลงไปตามฤดูของมัน KorPai 15 ธันวาคม 2555

:: ดอกไม้ไหวในวันเหงา/ Lonely again ::

ฤดูหนาวคราวนี้แสนแห้งแล้ง ใบไม้แห้งปลิดปลิวลิ่วเลือนหาย ลมพัดแรงเร็วถี่ตามลมไป เปรียบหมือนใจใครหลุดลอยไม่คล้อยมา มองไปไหนทำไมหัวใจฝืน เหมือนดั่งล้มทั้งยืนด้วยขื่นขม มองทางไหนไม่มีน้ำร้าวระทม เหมือนลอยลมขว้างใจเธอไม่มา หรือว่าเราปวดร้าวเพราะอากาศ มองฟ้าคล้ายเกรี้ยวกราดรู้สึกเหงา ลมเคยพัดเอื่อยกลับเฉยนิ่งไม่พัดเรา มีเพียงร่มเพียงบังเงาแสนเศร้าใจ ฝากลมบอกใจรักยังรออยู่ ผลัดฤดูใจเปลี่ยนเวียนกลับใหม่ หรือไม่คิดถึงที่เคยรอกันหรือไร ไม่มีเลยน้ำใจไม่กลับมา   รอบๆตัวทุกอย่างยังเงียบสนิท วังเวงยิ่งชีวิตจิตใจเหงา ขมขื่นเพราะคิดถึงเขาหรือเปล่า หรือเพราะหนาวเกินฝืนไม่คืนมา เสียงนกร้องก้องไปดั่งใจเหงา เห็นนกเศร้าตัวเรายิ่งหดหู่ การเปลี่ยนแปลงมีเรื่อยไปแม้ใจรู้ ยังหดหู่เพราะรู้ดีที่เธอไป นับจากวันนี้ไม่มีเขา มีเพียงเงาที่เคยพาดผ่านในฝัน ยังคงเป็นอย่างนี้ทุกวี่วัน อย่าได้ปันเผื่อใจไว้ที่ใครเลย อยู่กับตัวเองได้จะดีกว่า ชีวิตมีคุณค่าเกินเอื้อนเอ่ย บอกกับใจอย่าไปคิดถึงใครเลย อยู่คนเดียวอย่าเปลี่ยวเลยนะหัวใจ อยู่อย่างง่ายแส...