Skip to main content

:: ดอกไม้ไหวในวันเหงา/ Lonely again ::

ฤดูหนาวคราวนี้แสนแห้งแล้ง

ใบไม้แห้งปลิดปลิวลิ่วเลือนหาย

ลมพัดแรงเร็วถี่ตามลมไป

เปรียบหมือนใจใครหลุดลอยไม่คล้อยมา


มองไปไหนทำไมหัวใจฝืน

เหมือนดั่งล้มทั้งยืนด้วยขื่นขม

มองทางไหนไม่มีน้ำร้าวระทม

เหมือนลอยลมขว้างใจเธอไม่มา



หรือว่าเราปวดร้าวเพราะอากาศ

มองฟ้าคล้ายเกรี้ยวกราดรู้สึกเหงา

ลมเคยพัดเอื่อยกลับเฉยนิ่งไม่พัดเรา

มีเพียงร่มเพียงบังเงาแสนเศร้าใจ



ฝากลมบอกใจรักยังรออยู่

ผลัดฤดูใจเปลี่ยนเวียนกลับใหม่

หรือไม่คิดถึงที่เคยรอกันหรือไร

ไม่มีเลยน้ำใจไม่กลับมา


 
รอบๆตัวทุกอย่างยังเงียบสนิท

วังเวงยิ่งชีวิตจิตใจเหงา

ขมขื่นเพราะคิดถึงเขาหรือเปล่า

หรือเพราะหนาวเกินฝืนไม่คืนมา


เสียงนกร้องก้องไปดั่งใจเหงา

เห็นนกเศร้าตัวเรายิ่งหดหู่

การเปลี่ยนแปลงมีเรื่อยไปแม้ใจรู้

ยังหดหู่เพราะรู้ดีที่เธอไป



นับจากวันนี้ไม่มีเขา

มีเพียงเงาที่เคยพาดผ่านในฝัน

ยังคงเป็นอย่างนี้ทุกวี่วัน

อย่าได้ปันเผื่อใจไว้ที่ใครเลย



อยู่กับตัวเองได้จะดีกว่า

ชีวิตมีคุณค่าเกินเอื้อนเอ่ย

บอกกับใจอย่าไปคิดถึงใครเลย

อยู่คนเดียวอย่าเปลี่ยวเลยนะหัวใจ



อยู่อย่างง่ายแสนสบายไม่ลำบาก

ทิ้งรอยซากของความจำในวันเก่า

ทุกข์สุขอยู่กับใจของตัวเรา

ต่อแต่นี้จะไม่เศร้าอีกต่อไป



จะเริ่มก่อร่างสร้างวันใหม่

แตกกิ่งเติบใบเอาไว้ให้สู้ต่อ

อย่างมัวนั่งมองเงาแล้วถดท้อ

เริ่มเดินต่อสู้ไปอย่าได้กลัว



ก่อนหน้าที่จะถึงตรุษจีนที่บ้านยังทำงานอยู่

เพื่อความเพลิดเพลินเอากล้องมาเก็บภาพรอบๆโกดัง

เห็นดอกหญ้าเริ่มขึ้นบ้างแล้ว


ยังไม่มีร่มไม้ใหญ่ครึ้มมากเท่าไหร่นัก

เพราะเพิ่งจะเปลี่ยนต้นไม้ใหญ่ที่เคยมีมากมาย

เปลี่ยนเป็นลานกว้างเพื่อทำการค้า

แบบอาศัยแดด เพื่อตากพืชผลทางการเกษตร

พื้นที่ร่มครึ้มหายไป เล่นเอาผู้ที่อาศัยใจหายไปเช่นกัน


ในวันทำงานอยากนั่งเขียนอะไรรอบๆตัวออกมาบ้าง

รู้สึกว่าอากาศปีนี้แห้งแล้งยิ่งนัก ต้นไม้ใบไม้แห้งเฉาลง

ลมหนาวมาบางเป็นบางวัน

มักจะเย็นตอนเช้าตรู่

วันไหนมีหมอกแล้วให้รู้สึกยินดียิ่ง



หลังจากที่ยุ่งวุ่นวายกับการเตรียมตวทำขนมเข่ง

ซื้อข้าวของอยู่หลายวัน

ถึงไม่ได้ทำเองก็เป็นลูกมือวิ่งหาใบตองให้ทางบ้าน

เทขนม ใส่ห่อใบตอง วิ่งไปมาระหว่างบ้านกับโกดัง

เหนื่อยแบบโหดพอตัวเหมือนกัน



เหมือนเดินทางวันละหลายกิโล

แต่ก็สนุกดี เพราะขนมที่ทำไว้เพื่อแจกลูกค้าตามหมู่บ้าน

เมื่อได้ให้ของใคร ต่างอิ่มใจทั้งผู้ให้และผู้รับ

เดี๋ยววันหลังถ้ามีเวลาจะลงรูปที่ถ่ายมาฝากกันด้วยค่ะ

ขั้นตอนการทำขนมเข่ง ก่อนจะออกไปแจกลูกค้า


ถ้าเราไม่ได้ไปไหน เดินหาความสุขรอบๆตัวเราเองก็ได้เช่นกัน

การได้มีชีวิตอยู่อย่างนี้ไม่ต้องไปวิ่งไขว่คว้าในที่ไกลๆให้เหนื่อยใจเปล่า


ขอให้สดใสในวันทำงานทุกคนเช่นกันนะคะ



ภาพและถ้อยคำ



โดย



KorP@i

 

Comments

Popular posts from this blog

:: มีอะไรที่ไม่เปลี่ยน/Changing ::

โลกบอกอะไรแก่เราบ้าง หรืออาจลืมอะไรบางอย่างที่วางไว้ บอกเรื่องก้าวหน้าเดินต่อไป เตือนสิ่งดีไว้หันมองคราใดใจยังจำ ลืมคนบางคนบนเวลาที่ว่าเหงา หรือลืมเงาคนเก่าที่เคยหวัง กลับมองสิ่งที่ผ่านเป็นพลัง เติมความหวังไม่ย้อนไปให้ซ้ำเดิม หันมองเวลากลับผ่านเมื่อวันก่อน มีทุกข์ร้อนซ่อนความหวานซ่านปนขม มีเรื่องราวหลายหลากซากระบม มีทั้งเรื่องทั้งโง่บรมขมเหลือใจ อาจหันมองคืนวันเก่าแล้วขบขัน หลายสิ่งที่คิดไปในวันนั้น ตัดสินใจทำไปได้อย่างไรกัน ไม่อาจหันเปลี่ยนใจแล้วไม่มอง วัน เวลา เข็มนาฬิกา แม้ว่าไม่ได้นั่งเฝ้ามองดู ทุกอย่างยังเดินหน้าอยู่ ย่อมเปลี่ยนแปลงไปตามฤดูของมัน KorPai 15 ธันวาคม 2555

:: ส้มหล่นลูกใหญ่ได้ไปเนปาล::

ตอนที่ 3 : สีสันแห่งชีวิต ตามติดไปช็อปปิ้งที่เมืองธาเมล ผู้คนที่เห็นข้างหน้าแต่งตัวคล้ายกับที่เราเคยเห็นท่านทาไลลามะเสียจริง กำลังเดินผ่านช้องตรวจคนเข้าเมืองเป็นแถว “ว้าว..จริงด้วยมีพระทิเบตกำลังเข้าแถวต่อจากกลุ่มทัวร์ของเรา” เลยได้เห็นการต้อนรับอาคันตุกะตามแบบฉบับของชาวเนปาลี ถ้าใครตามดูข่าวในพระราชสำนักตอนที่สมเด็จพระเทพฯ ท่านเสด็จเยื่อนละแวกนี้จะมีชาวทิเบตให้การต้อนรับอย่างนี้เช่นกัน เค้าจะมีผ้าสีขาวไว้คล้องคอของแขกผู้มาเยือนก่อนเข้าเมือง บรรดาพระจีนจากเมืองต่างในแถบเอเชียมีการประชุมกันที่เนปาล เราเพิ่งเห็นป้ายที่แขวนระหว่างทางที่เขียนต้อนรับพระทิเบตเหล่านั้น เดินออกมาจากสนามบินเห็นหนุ่มๆ ที่มีรถไว้บริการผู้โดยสารที่เพิ่งลงจากเครื่องบินต่างเรียกให้ใช้บริการของตนกันด้วยรถคันเล็กสีขาวจอดเรียงกันเต็มสนามบิน ส่วนเราเดินตามขบวนที่มีรถโค้ชคันใหญ่มารับ พอจัดการกับสัมภาระเรียบร้อยแล้วก็ขึ้นรถเตรียมตัวเดินทางเข้าที่พัก พอขึ้นรถก็มีไกด์ท้องถิ่น ท่าทางแต่ละคนมีลักษณะกรุ้มกริ่ม แววตาเจ้าชู้ หน้าตาคมคาย แบบฉบับคนแขกทั่วๆไปแต่ส่วนใหญ่ผิวสีคล้ำ ส่วนไกด์ประจำรถเราแนะนำตัวว่าชื่อคีราน จา

:: ส้มหล่นลูกใหญ่ได้ไปเนปาล::

ตอนที่ 1 ตะลุยสุวรรณภูมิ เมื่อมีโอกาสเดินเข้ามาหา จงอย่าได้ปฏิเสธมัน ไม่บ่อยครั้งนักที่จะมีบางสิ่งบางอย่าง วิ่งเข้ามาหาเราโดยที่ไม่ได้ตั้งตัว นั้นแหละคือที่มาของ Trip นี้                                       บังเอิญว่าขายเมล็ดพันธุ์ข้าวโพดได้ยอดขายตามเป้าที่บริษัทแม่กำหนดไว้ที่บ้านเราเป็นผู้แทนจำหน่าย ทำยอดได้เป้าการขายที่ทางบริษัทมีสมนาคุณให้ไปเที่ยวเนปาล อาปากับแม่ไม่ไป             ส้มลูกใหญ่เลยหล่นล่วงลงมาหาป้ากับเราได้พากันเหิรฟ้า ท้าอากาศ หนาวที่เนปาล                         ช่างเป็นทริปที่เหลือเชื่อ ช่วยให้เราได้มีโอกาสประเดิมสนามบินแห่งใหม่ของเมืองไทย เป็นครั้งแรก   พอได้ลุยสนามบินใหม่เห็นสารพัดสิ่งที่เหมือนจะดูไฉไลซะจริงเชียว ไม่ว่าจะเดินเลาะเลี้ยวไปที่ใดก็เจอแต่สินค้ามากมาย ชวนให้เงินเราไหลออกนอกตัวเป็นยิ่งนัก ร้านรวงระหว่างทางช่างชวนสายตาให้เหลือบมอง ไม่ว่าจะเป็นน้ำหอม ผ้าพันคอแสนสวย เครื่องสำอางค์ คอลเลคชั่นใหม่มาแรงเพียบ     จนต้องนั่งมองความคิดมองสติให้ดีก่อนเดินทาง เพราะมีสิ่งล่อลวงใจให้ใหลหลงเข้าดงระงับกิเลศตลอดทาง เผลอเมื่อไหร่เป็นได้จับจ่ายใช้สอย ทา